วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อธิบายคำสั่ง

sql ="select * from student order by id asc ";
     การเลือกทุกฟิลจากตารางชื่อ student เรียงตาม ฟิลไอดีโดยเรียงจากน้อยไปมาก คือ ก ถึง ฮ
$query=mysql_query($sql) or die(mysql_error()); 
     การประมวลผลคำสั่ง โดยใส่ or die เพื่อใช้ตรวจสอบว่าเราเขียน text ถูกรึเปล่า ถ้าผิดจะ error และจะหยุดการทำงานทันที  
$num=mysql_num_rows($query);
     การแสดงจำนวน record  จากตาราง ที่ชื่อ student  ว่ามีกี่คน  และสุดท้ายแสดงผลการประมวลผลโดยจะแสดงเป็นข้อความหรือตัวเลขก็ได้ แล้วแต่กำหนดไว้ ในที่นี้แสดงเป็น $num คือ แสดงผลเป็นตัวเลข

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Code

<?php
$score=98;
if($score<50){
echo'grade 0';
}else if($score<56){
echo 'grade1';
}else if($score<60){
echo 'grade1.5';
}else if($score<65){
echo 'grade2';
}else if($score<70){
echo 'grade2.5';
}else if($score<75){
echo 'grade3';
}else if($score<80){
echo 'grade3.5';
}else{echo 'grade4';}
?>

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

เรื่องฮาๆ ของอวัยวะในร่างกาย



ตา >> อวัยวะที่ใช้ในการมอง มักจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี

หู >> อวัยวะที่ใช้ในการฟัง ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา เพื่อสะดวกในการพกพา

ปาก >> อวัยวะที่ใช้ในการพูด ส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจ

จมูก >> อวัยวะที่ใช้ในการหายใจ ถ้ายื่นเข้าไปในเรื่องของคนอื่นเขาเรียกว่า ..แส่

บ่า-ไหล่ >> อวัยวะที่อยู่เคียงคู่กันมา ดังที่เรียกว่า “เคียงบ่าเคียงไหล่” มีให้คนคนขี้เหงาได้ซบ ถ้าเป็นจับกังก็ใช้แบกหาม ข้าวสาร ปูน…

หัวใจ >> อวัยวะที่ใช้สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกาย คนที่เจ้าชู้ส่วนใหญ่มักจะเก็บตัวจริงไว้ แล้วถ่ายเอกสารไว้ใช้อย่างพร่ำเพรื่อ

ปอด >> อวัยวะที่ใช้ฟอกโลหิต แต่ถ้าปอดแหกจะเก็บความกล้าหาญไว้ไม่ได้

นม >> อวัยวะที่สุภาพสตรีอยากให้ยื่นไปข้างหน้ามากกว่าพุง

ศอก >> ข้อต่อระหว่างแขนท่อนบนกับแขนท่อนล่าง ใช้เป็นอาวุธประจำกาย หรือใช้สำหรับรองน้ำดื่มสำหรับหญิงที่มาทีหลัง

ตัว >> เป็นชิ้นส่วนที่ใหญ่ของร่างกายมีไว้ให้ส่วนอื่นได้พักพิง มักจะลืมกันมากในเวลาได้ดิบได้ดี

สะดือ >> เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ตอนอยู่ในครรภ์ เมื่อใดใช้วัดความสุภาพ…ถ้าอยู่ต่ำกว่าสะดือ ถือว่าทะลึ่ง

ขาอ่อน >> เป็นส่วนที่เชื่อมต่อมาจากสะโพก มักนิยมใช้ประกวด เพราะมองเห็นง่ายกว่าสมอง

หัวเข่า >> เป็นข้อต่อระหว่างขากับแข้ง เป็นอาวุธประจำกาย ผู้หญิงใช้โจมตีจุดอ่อนของผู้ชาย และบางคนใช้เช็ดน้ำตาเวลาเศร้า โดยเฉพาะคนที่แอบรักผัวชาวบ้านเขา

ขนหน้าแข้ง >> ใช้วัดระดับฐานะทางการเงิน ยิ่งรวยมาก ขนหน้าแข้งจะร่วงน้อย

เท้า >> เป็นอวัยวะที่ใช้ในการยืน เดิน หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลัก หรือที่เรียกว่ากันทั่วไปว่า..ถีบ

เครดิต : http://www.kwamru.com/99

อาหารสมองช่วยเพิ่มสมาธิ




                      ใครๆ ก็อยากที่จะมีสมองที่ดี และมีสมาธิในการทำงานกันทั้งนั้น และวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เกิดสมาธิที่ดีได้นั้นก็ทำได้ง่ายๆ เพียงเน้นการรับประทานอาหารในบางประเภท และหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง ก็จะช่วยสมองให้ทำงานอย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดสติ มีสมาธิ ตื่นตัวเข้าใจในสิ่งต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น มีความจำที่ดีขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของระบบสมองทั้งความคิดและวิเคราะห์

• อาหารและเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชาดำ ชาเขียว โกโก้ น้ำอัดลม ช็อกโกแลต ซึ่งจะมีสารกาเฟอีนประกอบอยู่มากบ้างน้อยบ้าง เช่น กาแฟจะมีสารกาเฟอีนสูงกว่าชาเขียว สารกาเฟอีนหากได้พอเหมาะจะช่วยให้เกิดการตื่นตัวและสดชื่น หากได้มากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้กาเฟอีน เด็ก ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ควรระมัดระวังการกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อาจทำให้หัวใจเต้นเร็วและปวดหัวได้

• น้ำตาลกลูโคสซึ่งไม่ใช่น้ำตาลทราย แต่ เป็นน้ำตาลที่มาจากการย่อยอาหารพวกข้าว แป้ง นม ผลไม้ เนื่องสมองของคนเรานั้นต้องการน้ำตาลในการทำงาน ผู้ที่ทำงานหนักโดยขาดน้ำตาล เช่น ไม่กินข้าว ไม่กินแป้ง ไม่กินผลไม้ มักจะมีอาการเหนื่อยง่าย มักจะเกิดความมึนงงได้ง่าย และหากได้ผลไม้หรือน้ำผลไม้ก็จะทำให้สดชื่นขึ้น จากการศึกษาพบว่าเด็กๆ ที่ไม่รับประทานอาหารเช้าจะมีสมาธิในการเรียนที่สั้นกว่า และผลการเรียนที่น้อยกว่าเด็กที่รับประทานอาหารเช้า เนื่องจากข้าว แป้งที่รับประทานเข้าไปจะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลกลูโคส ข้อที่ต้องระวัง คือ การกินอาหารประเภทข้าว แป้ง และน้ำตาลที่มากเกินไปก็จะไม่ดีเช่นกันเพราะน้ำตาลที่เกินกว่าความต้องการ ของร่างกายก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันแทนที่

• ปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลากะพง ปลาแซลมอน จะมีสารโอเมก้า-3 สูงที่ช่วยเพิ่มความจำ และในเด็กเล็ก 0-5 ปี สารโอเมก้า-3 นี้ จะเป็นตัวที่เพิ่มการพัฒนาการของสมองที่ช่วยในด้านความจำและการเรียนรู้ สำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุสารโอเมก้า-3 จะช่วยลดการเกิดโรคสมองเสื่อมและเส้นเลือดสมองตีบ คนในประเทศญี่ปุ่นที่มีการกินปลาที่มีสารโอเมก้า-3 สูง พบว่า การทำงานของสมอง และความจำ รวมถึงการมีสมาธิในการทำงานจะดีกว่าคนที่ไม่ได้รับสารโอเมก้า-3 ตามข้อแนะนำของสมาพันธ์โรคหัวใจและหลอดเลือดสมองแนะนำให้กินปลาที่มีสารโอเมก้า 3 อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

• กินอาหารที่มีไขมันและน้ำมันที่ดี เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดเฟล็ก ไขมันจากถั่วเปลือกแข็ง ไขมันจากผลอะโวคาโด ไขมันและน้ำมันเหล่านี้จะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดที่มีส่วนช่วยในการลด ระดับคอเลสเตอรอล และลดไขมันในเส้นเลือด ทำให้เลือดหมุนเวียนภายในร่างกายได้ดีและเมื่อเลือดหมุนเวียนได้ดีสมองก็จะ ได้รับเลือดและออกซิเจนที่เพียงพอ ทำให้การทำงานได้ดี และอาหารกลุ่มนี้จะมีวิตามินอีที่เป็นตัวช่วยในการบำรุงสมอง ส่วนไขมันบางประเภทเช่นไขมันที่มาจากสัตว์ เช่น ไขมันหมู ไขมันไก่ ไขมันวัว และไขมันจากน้ำมันทอด จะเป็นอีกกลุ่มไขมันที่ไม่ดีและไม่ควรที่จะกินบ่อยเนื่องมาจากไขมันกลุ่มนี้ จะเป็นกลุ่มไขมันอิ่มตัวและมีคอเลสเตอรอลสูง ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวได้ง่ายและก่อให้เกิดโรคของหลอดเลือดสมอง

• ผัก ผลไม้ที่มีสีม่วงเข้ม เช่น องุ่น บลูเบอร์รี ลูกพรุน ลูกหม่อน ลูกหว้า มะเขือม่วง ข้าวโพดม่วง ดอกอัญชัน จากการศึกษา พบว่า สารที่ม่วงที่มีอยู่ในผักและผลไม้ จะช่วยปกป้องเซลล์สมองจากการถูกทำลายของสารอนุมูลอิสระซึ่งได้แก่ ควันเสีย ความร้อน ความเครียด ซึ่งอนุมูลอิสระจะเป็นตัวทำลายสมองและลดความสามารถของสมองและสมาธิลง จากการศึกษายังพบด้วยว่าสารสีม่วงนี้จะช่วยเพิ่มระบบการเรียนรู้ของสมอง และทำให้ความคิดเฉียบแหลม

• น้ำเปล่า เนื่อง จากสมองต้องการน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงและทำงานอยู่ตลอดเวลา เมื่อเราขาดน้ำจึงมักจะมีอาการปวดหัว เป็นไข้ มึนงง คิดอะไรไม่ออก ดังนั้น ผู้ที่ต้องนั่งทำงานที่ต้องใช้สมาธิควรจะมีน้ำหรือเครื่องดื่มวางไว้ใกล้ๆ เพื่อที่จะได้จิบเมื่อเวลาที่สมองต้องการ และพยายามอย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ

จะเห็นได้ว่าอาหารมีส่วนช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นและมี สมาธิในการทำงานเพิ่มขึ้น หากแต่ว่าอาหารที่ดีทั้งหลากหากได้มากเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ ดังนั้น จึงควรเรียนรู้คำว่าพอดีสำหรับอาหารแต่ละประเภทก็จะทำให้สุขภาพร่างกายและ สมองดี






เครดิต : http://www.meesara.com/?p=1702

หนังสั้นเพราะฉันเบื่อ...ฉันจึงทำ Because i'm bored

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556



สถานที่ยอดฮิตเกาหลีที่ไม่ควรพลาด !!


1. หมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊ก (Bukchon Hanok Village)

          หมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊กแห่งนี้ ตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังเคียงบ๊อคกุง ( Gyeongbokgung Palace) และพระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) ในอดีตเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ๆ เพราะเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าบรรดาขุนนางระดับสูง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน ซึ่งคนพื้นถิ่นจะเรียกหมู่บ้านแห่งนี้แบบง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า "หมู่บ้านบุกชอน" ซึ่งในภาษาเกาหลีจะหมายถึงหมู่บ้านทางเหนือนั่นเอง


2. ย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง (Insa-dong Culture District)

          เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เดินจากหมู่บ้านบุกชอนฮันอ๊กลงมาทางใต้ประมาณ 10 - 15 นาที คุณก็จะเจอกับย่านวัฒนธรรมอินซา-ดง ที่มีทั้งห้องแสดงงานศิลปะ ร้านขายเครื่องแกะสลักแบบพื้นเมือง ร้านขายวัตถุโบราณ ภัตตาคารและร้านน้ำชาตามแบบเกาหลีดั้งเดิม ซึ่งนับเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิมแท้ ๆ นอกจากนี้ ที่นี้ยังเป็นแหล่งวัตถุโบราณ ทั้งภาพเขียนเก่าแก่ งานเครื่องปั้นดินเผา งานกระดาษ และเครื่องเรือนเก่าอีกด้วย


3. พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

          พระราชวังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการปกครองในสมัยราชวงศ์โชซอน  ในเขตพระราชวัง ประกอบไปด้วยพระที่นั่งต่าง ๆ มากมาย เช่น ห้องประทับของกษัตริย์และพระราชินี ห้องทรงพระอักษร ท้องพระโรง สวนกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีพระตำหนักเคียวฮเวรู ที่มีลักษณะเป็นอาคารสองชั้น พระตำหนักถูกสร้างให้ยื่นออกไปกลางสระน้ำ เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงพระราชทานนสมัยนั้น

 

4. มยองดง (Myeongdong)

          ถ้าบ้านเรามีสยามสแควร์ เป็นแหล่งช้อปปิ้งของเหล่าวัยทีนทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางและอื่น ๆ ที่กรุงโซลก็มีย่าน มยองดง หรือเมียงดง เป็นแหล่งช้อปปิ้งเช่นเดียวกัน เพราะที่นี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของสินค้าแบรนด์เนมมากมายหลากหลายยี่ห้อ และถ้าเดิน ๆ ช้อปปิ้งจนเริ่มรู้สึกหิวข้าวขึ้นมาแล้วล่ะก็ ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะที่ก็เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยร้านอาหารชั้นเลิศมากมายเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า "ช้อป", "ชิม", "เที่ยว" มีอยู่ที่นี่ครบ!


5. ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market)

          เปลี่ยนบรรยากาศการช้อปปิ้งของหรู ๆ จากย่านเมียงดง มาช้อปปิ้งที่สำเพ็งบ้านเรา เอ๊ย! ล้อเล่นครับ เปลี่ยนมาเป็นตลาดนัมแดมุนต่างหาก เพราะตลาดนัมแดมุนถือเป็นแหล่งค้าขายสินค้าต่าง ๆ ในราคาถูกและซื้อ - ขายในราคาส่งกันจำนวนมาก ที่นี่มีร้านค้ามากมายให้คุณได้เลือกจับจ่ายซื้อของมากหลายพันร้านค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอเตือนไว้สักนิดว่าหากใครที่ชอบต่อราคาสินค้า ก็ขอให้ระมัดระวังหรือไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะพ่อค้าแม่ค้าที่นี่ ไม่เคยปรานีใครง่าย ๆ เหมือนกันนะจ๊ะ...จะบอกให้


6. รถไฟใต้ดิน (Subway)

          ไหน ๆ ก็ไปถึงกรุงโซลกันแล้ว คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนด้วยการขึ้นรถไฟใต้ดินในกรุงโซลนั่นเอง การใช้บริการรถไฟใต้ดินในกรุงโซลนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นและจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้มาก แต่อย่างไรก็ดี หากจะใช้บริการรถไฟใต้ดินแล้วล่ะก็ กรุณาพกแผนที่และแผนผังของสถานีต่าง ๆ ติดตัวเอาไว้ด้วยนะครับ เพราะที่กรุงโซลมีสถานีรถไฟใต้ดินเป็นร้อย ๆ สถานีเลยทีเดียว แถมยังแบ่งเส้นทางอีกตั้ง 8 สาย และเชื่อมต่อสถานีไปที่ต่าง ๆ อีกมากมาย ฉะนั้นแล้วอย่าได้ทำแผนที่หายเป็นอันขาดล่ะ